สงสัยว่าจะเข้าใจผิดแล้ว ทางสหกรณ์ไม่เคยซื้อหุ้นเลย เดี๋ยวสมาชิกจะเข้าใจผิด การซื้อหุ้นมีความเสี่ยงมากและผิดกฎระเบียบของสหกรณ์ ซึ่งทางสหกรณ์ไม่สามารถลงทุนได้ แต่ถ้าสหกรณ์มีเงินส่วนเกินสภาพคล่องก็สามารถนำเงินไปลงทุนซื้อตราสารหนี้ได้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล และหุ้นกู้ที่เครดิตเรตติ้งไม่ต่ำกว่า A- ตามกฎของคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ (คพช.) ซึ่งในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยธนาคารตำมาก การนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้จะช่วยเพิ่มรายได้ให้สหกรณ์ ซึ่งการซื้อหุ้นกับซื้อตราสารหนี้ไม่เหมือนกัน ผลตอบแทนของตราสารหนี้ก็คือดอกเบี้ย นั่นเอง
ส่วนการปล่อยกู้สมาชิกสหกรณ์ก็ไม่ได้ละเลย ในปี 2552 ที่ผ่านมามีการปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบเงินกู้หลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2552 มีการขยายระยะเวลากู้จาก 84 งวดเป็น 120 งวด และเพิ่มวงเงินให้กู้เป็น 700,000 บาท และเพิ่มสิทธิ์ผู้ค้ำประกัน จาก 2 ราย เป็น 3 ราย เพื่อแข่งขันกับธนาคารออมสิน ต่อมาธนาคารออมสินมีการเพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อ เป็น 1 ล้าน และ 1.5 ล้านตามลำดับ แต่สหกรณ์ก็พยายามปรับแข่งกับธนาคารออมสินโดยการเพิ่มวงเงินเป็น 1 ล้านเช่นกัน และเพิ่มหลักประกันโดยให้สมาชิกที่กู้เงินสามัญพิเศษ ทำประกันชีวิตกลุ่มด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมาก็มีการปรับปรุงด้านเงินกู้หลายเรื่อง
สุดท้ายนี้อยากขอให้สมาชิกที่คิดจะไปกู้ออมสินหันมากู้สหกรณ์ดีกว่า ไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันที่แพงมาก และผลกำไรของสหกรณ์กลับคืนสู่สมาชิกด้วยกัน สหกรณ์เป็นองค์กรของเรา ควรรักษาไว้ให้มั่นคง